การออมเงินเป็นหนึ่งในวิธีเก็บเงินที่คนรุ่นใหม่นิยมหันมาให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น เพราะนอกจากการมีเงินออมจะช่วยให้เรามีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคตแล้ว ยังเป็นการสำรองเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย จึงทำให้การเก็บออมเงินถือเป็นสิ่งพื้นฐานที่มีประโยชน์อย่างมากกับผู้คนในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่ผู้ที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยทำงาน ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ที่ต้องการความมั่นคงในชีวิต
ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับการออมเงิน พร้อมทั้งวิธีออมเงินอย่างฉลาดที่เหมาะกับเป้าหมายในการเก็บเงินของแต่ละคน เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเก็บออมเงินไว้เสริมความมั่งคั่งในชีวิต
การออมเงินคืออะไร?
การออมเงิน คือ การจัดสรรจำนวนรายได้ส่วนหนึ่งที่มีนำไปเก็บไว้ใช้ในอนาคต ซึ่งวิธีการออมเงินที่เราสามารถทำได้นั้นมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีเงินฝากประจำ การทำตารางออมเงิน หรือการนำรายได้ 10% เก็บไว้ในบัญชีธนาคารแบบออมทรัพย์
โดยสัดส่วนที่เหมาะสมกับการออมเงินแบบทั่วไปสำหรับมนุษย์เงินเดือนหรือผู้ที่มีรายได้ประจำ คือ หลักการออมเงินแบบแบ่งจำนวนเงินประมาณ 1 ใน 4 ของรายได้ในแต่ละเดือน ซึ่งสัดส่วนในการออมเงินรูปแบบนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของรายได้ และการวางแผนสร้างเงินออมเพื่ออนาคตของแต่ละคน ตัวอย่างเช่น ใครที่มีการวางแผนจะใช้เงินก้อนใหญ่ในอนาคตอันใกล้ อาจจะจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสัดส่วนการออมเงินเป็น 2 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมดแทน เพื่อให้เราได้ถึงเป้าหมายในการออมเงินไวยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การออมเงินรูปแบบต่าง ๆ นั้นมีความแตกต่างกัน เพื่อให้คุณได้วิธีแบ่งเงินเก็บในแบบที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด การเลือกออมเงินแบบไหนดีจึงขึ้นอยู่กับเทคนิคการออมเงินและการวางแผนค่าใช้จ่ายของแต่ละคนเป็นหลัก
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการออมเงินมี
อะไรบ้าง?ในการเลือกวิธีการออมเงินที่เหมาะสมกับตัวเอง ควรเริ่มต้นจากการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เราได้รับประโยชน์สูงสุดจากวิธีการออมเงินที่ต้องการ เพราะหากเราเลือกวิธีออมเงินอย่างชาญฉลาดอาจทำให้เราได้ผลตอบแทนจากการเก็บเงินด้วย
- ผลตอบแทน : การออมเงินระยะยาวมักจะได้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย ซึ่งดอกเบี้ยนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการเก็บเงิน เพราะยิ่งธนาคารไหนให้ผลตอบแทนสูง เงินออมก็จะยิ่งงอกเงยเร็วขึ้น
- อัตราเงินเฟ้อ : เป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อค่าเงิน เพราะจากอดีต สินค้าและบริการมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ ทำให้เงินมีมูลค่าลดลง ดังนั้นดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับอาจจะไม่ใช่เงินฝากที่แท้จริง ซึ่งจะต้องหักผลกระทบจากเงินเฟ้อก่อน
- ระยะเวลาในการเก็บออม : การมีเงินเก็บสะสมจำนวนมากเป็นผลมาจากการออมเงินมาตั้งแต่อดีต ซึ่งหากเราออมเงินเร็วเท่าไหร่ เงินเก็บก็จะยิ่งมีงอกเงยมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเงินไปฝากธนาคารที่มีการคิดดอกเบี้ยแบบทบต้น โดยดอกเบี้ยดังกล่าวจะกลายเป็นเงินต้นของงวดถัดไปเรื่อย ๆ ทำให้เรามีเงินเก็บออมเพิ่มขึ้น
- อัตราค่าธรรมเนียม : การเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อการออมแต่ละประเภทจะมีข้อกำหนดและอัตราค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกออมเงินแบบต่าง ๆ ควรศึกษารายละเอียดจากสถาบันทางการเงินว่าเหมาะกับเงื่อนไขส่วนตัวของเราหรือไม่
- ภาษี หัก ณ ที่จ่าย : ผู้ที่ต้องการฝากเงินหรือเปิดบัญชีเงินฝากควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลตอบแทนที่มาในรูปแบบดอกเบี้ยที่ส่วนมากมักจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% แต่ก็ยังมีผลตอบแทนการออมบางประเภทที่ได้รับยกเว้นภาษี
- สภาพคล่องทางการเงินของผลิตภัณฑ์ : สำหรับใครที่เลือกสินทรัพย์ในการออมเป็นเงินฝากธนาคาร นั่นหมายความว่าสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง แต่หากคุณเลือกรูปแบบการออมเป็นของสะสม รถยนต์ หรือที่ดิน จะทำให้การเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นเงินสดยากขึ้น เราจึงควรเลือกแผนการออมเงินที่เหมาะกับรูปแบบการใช้จ่ายของเรา เพื่อป้องกันปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินในอนาคต
- การคุ้มครองเงินฝาก : หากสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ฝากเงินในสถาบันการเงินดังกล่าว จะได้รับเงินฝากทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย คืนจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากภายใต้วงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท
วัตถุประสงค์ในการออมเงิน เพื่อวางแผนระยะยาว
การออมเงินถือเป็นสิ่งที่นำพาซึ่งความมั่นคงทางการเงิน เพื่อให้คุณได้เตรียมความพร้อมทางด้านการเงินสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือนำเงินเก็บสะสมไปต่อยอดทำธุรกิจในฝันของตัวเองได้ โดยวัตถุประสงค์ในการออมเงินเพื่ออนาคตสามารถแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ได้ดังนี้
การออมเพื่อการลงทุน
การออมเพื่อการลงทุน คือหนึ่งในการลงทุนที่จะสร้างความมั่นคงให้กับเราในระยะยาว โดยการออมเงินประเภทนี้เราควรตั้งเป้าหมายในการออมเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ สำหรับคนที่กำลังเข้าสู่วัยทำงาน หรือ First Jobber สามารถเริ่มออมเงินจำนวนเล็กน้อยทุกเดือน เพื่อนำเงินสะสมในส่วนนี้ไปลงทุนต่อยอดในแหล่งอื่น ๆ ต่อไปได้ ซึ่งสัดส่วนการออมเงินเพื่อการลงทุนในแต่ละเดือน สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยแนะนำให้เก็บเงินเริ่มต้นที่ 1,000 บาท เป็นประจำทุกเดือน
การออมเป็นเงินฉุกเฉิน
ประเภทของการออมเงินแบบต่อมา คือการออมเงินไว้ใช้เพื่อสำรองเหตุฉุกเฉิน เพราะเราไม่มีทางคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก่อนได้ การมีเงินเก็บสำรองเตรียมไว้จะทำให้คุณไม่ต้องไปกู้เงินมาใช้จ่ายเมื่อวันที่ไม่คาดคิดมาถึง ซึ่งเงินฉุกเฉินในส่วนนี้จะครอบคลุมการใช้จ่ายทั้งเรื่องสุขภาพและเรื่องการงาน เมื่อมีเงินในส่วนนี้แล้วคุณก็จะไม่ลำบากจนเกินไป และทำให้คุณอุ่นใจมากขึ้นอีกด้วย
การออมเป็นเงินเกษียณ
การวางแผนการออมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่วันที่เริ่มต้นทำงาน เพราะเมื่อเวลาที่เราเกษียณจากการทำงาน เราจะไม่สามารถหารายได้ได้เหมือนเดิม อีกทั้งยังมีภาระค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ที่ต้องดูแล การออมเงินไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้เรามีเงินเก็บสะสมไว้ใช้ในระยะยาว และลดภาระขอลูกหลานอีกด้วย
การออมเพื่อใช้ส่วนตัว
รูปแบบการออมเงินที่เราสามารถเติมเต็มความต้องการของตัวเองได้นั่นก็คือ การออมไว้ใช้ส่วนตัว ซึ่งการเก็บเงินเพื่อการลงทุนในอนาคตเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ชีวิตของคุณตึงเครียดจนเกินไป เราจึงควรมีการเก็บออมรูปแบบนี้เพื่อที่จะได้มีเงินเหลือเก็บไว้ใช้ในการซื้อความสุขให้กับตัวเอง และมีกำลังใจในการออมเงินต่อไปในอนาคต
สำหรับใครที่อยากได้เทคนิคการออมเงินฉบับมนุษย์เงินเดือน สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : วิธีเก็บเงิน มนุษย์เงินเดือน 10,000
ประโยชน์ของการออมเงินไว้ใช้ในอนาคต
หลังจากที่เราทราบกันแล้วว่าวัตถุประสงค์ของการออมเงินเพื่อวางแผนการใช้จ่ายในระยะยาวมีอะไรบ้าง เรามาอ่านประโยชน์ของการออมเงินและการลงทุนกันดีกว่าว่า การเริ่มต้นออมเงินช่วยอะไรเราบ้าง?
- สร้างความมั่นคงทางการเงิน
การออมเงินจะทำให้คุณมีแหล่งเงินสำรองที่ปกป้องคุณจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยที่เราไม่ต้องกู้เงินให้เสียเวลา - เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับชีวิต
การมีเงินเก็บจะทำให้คุณปลดล็อกข้อจำกัดในการใช้จ่าย และเพิ่มอำนาจในการตัดสินใจต่าง ๆ ให้แก่คุณ - มีอิสระในการใช้จ่าย
เพราะการออมเงินจะช่วยให้คุณไล่ตามความฝัน และกำหนดเส้นทางชีวิตของตัวเองได้ด้วยการใช้จ่ายอย่างอิสระ ไร้ข้อจำกัดทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากไม่รู้วิธีออมเงิน - เป็นกองทุนฉุกเฉิน
การเก็บออมเงินจะทำให้คุณมีเงินก้อน และเงินสดสำรองสำหรับการใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด - ช่วยในการจัดการหนี้สิน
เพราะเงินสำรองในส่วนนี้จะทำให้คุณสามารถบริหารการเงินได้โดยไม่ได้ต้องกู้หนี้ยืมสิน หลีกเลี่ยงการเป็นหนี้บัตรเครดิตดอกเบี้ยสูง - มีสุขภาพจิตที่ดียิ่งขึ้น
การมีเงินเหลือเก็บจะทำให้คุณลดความเครียด และความวิตกกังวลในเรื่องการเงินให้หมดไป - ส่งต่อความมั่งคั่งให้กับลูกหลาน
เงินเก็บสะสมของคุณจะช่วยสร้างโอกาสทางการเงินและการใช้ชีวิตให้กับคนรุ่นหลัง รวมถึงส่งต่อประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับคนรุ่นต่อไป
วิธีการออมเงินอย่างฉลาดที่ทำได้จริง!
หากใครยังไม่รู้ว่าจะเลือกออมเงินรายเดือนแบบไหนดี วันนี้เรามีวิธีออมเงินฉบับมนุษย์เงินเดือนมาฝากทุกคนกัน รับรองว่าเป็นวิธีการออมเงินง่าย ๆ ที่ทำได้กันทุกคนแน่นอน
ทำตารางออมเงิน
การทำตารางออมเงินเป็นหนึ่งในวิธีการออมเงินที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการสร้างตารางและกำหนดว่าแต่ละวันเราจะเก็บเงินไว้เท่าไหร่ โดยอย่าลืมที่จะเขียนระบุยอดเงินที่เราตั้งเป็นเป้าหมายเอาไว้ พร้อมทั้งเขียนระยะเวลาในการเก็บเงินว่าเราจะใช้เวลานานเท่าไหร่ เพื่อสร้างกำลังใจในการเก็บออมและให้เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเก็บเงิน ซึ่งผู้เริ่มต้นเก็บเงินควรตั้งเป้าหมายในการเก็บเงินให้สัมพันธ์กับรายได้ เพื่อให้เป้าหมายในการเก็บออมสามารถทำได้จริง
แบ่งเงินเป็นสัดส่วน
สูตรออมเงินอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม คือ การแบ่งเงินเป็นสัดส่วน วิธีนี้จะช่วยให้เราบริหารการใช้จ่ายของเราได้ง่ายดายยิ่งขึ้น โดยสัดส่วนในการแบ่งเงินที่หลายคนทำกันคือ 50-30-20 ซึ่งจะแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน ค่าใช้จ่ายส่วนตัว และเงินสำหรับเก็บออม การแบ่งเงินเป็นสัดส่วนแบบนี้จะทำให้เรารู้ว่าเรามีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่ใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ และมีส่วนไหนที่เราต้องเก็บออมเพื่อไว้ต่อยอดในอนาคตบ้าง
เลือกซื้อกองทุน
ทริกออมเงินที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือ การเลือกซื้อกองทุนรวม ไม่ว่าจะเป็นหุ้น สินทรัพย์ทางเลือก หรือจะเป็นกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) ซึ่งผู้ที่เริ่มต้นออมเงินสามารถกระจายความเสี่ยงได้จากการเลือกกองทุนจากผลประกอบการของกองทุนนั้น ๆ โดยผลตอบแทนจากการซื้อกองทุนจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่เราทำการลงทุน
เปิดบัญชีเงินฝากประจำ
การเปิดบัญชีเงินฝากประจำเป็นหนึ่งในรูปแบบการออมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเงินฝากประจำเป็นรูปแบบการออมเงินผ่านบัญชีธนาคารที่มีเงื่อนไขที่เข้มงวด และมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ โดยเงื่อนไขส่วนใหญ่ของเงินฝากประจำ คือเงื่อนไข “ห้ามถอน” ในระยะเวลาที่เลือกไว้ ซึ่งหากถอนก่อนกำหนด อาจทำให้ไม่ได้รับดอกเบี้ยหรือได้รับต่ำกว่าที่เงื่อนไขกำหนด ใครที่เป็นคนเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ แนะนำให้ลองออมเงินด้วยวิธีนี้ดู เพราะนอกจากจะได้เงินเก็บแล้วยังได้สร้างวินัยในการออมให้ตัวเองด้วย
บัญชีเงินฝากประจำกับบัญชีออมทรัพย์แตกต่างกันอย่างไร หาคำตอบได้ในบทความนี้ : บัญชีเงินฝากออมทรัพย์คืออะไร
การออมเงินระยะยาว วางแผนการเงินให้กับชีวิต
การออมเงินถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในชีวิตของเรา โดยเฉพาะผู้ที่กำลังเริ่มต้นเข้าสู่วัยทำงาน การวางแผนออมเงินไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้คุณได้ตั้งเป้าหมายการเก็บเงินไว้อย่างเป็นขั้นตอนยิ่งขึ้น ซึ่งการเปิดบัญชีเงินฝากเป็นหนึ่งในการออมเงินที่คนในสมัยนี้นิยมทำกัน เพราะนอกจากคุณจะได้มีเงินเก็บสะสมไว้ใช้จ่ายในอนาคตแล้ว ยังเป็นหลักประกันที่มั่นคงให้กับชีวิตอีกด้วย
ttb มีสิทธิประโยชน์ให้กับผู้เปิดบัญชีใหม่ทุกท่าน เพียงเปิดบัญชีเงินฝาก ttb all free และฝากเงินไว้ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไปทุกวัน ตลอดทั้งเดือน ก็ได้ความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุ เคลมประกันได้สูงสุด 3,000 บาท/อุบัติเหตุ ไม่จำกัดครั้ง ไม่ต้องสำรองจ่ายกับสถานพยาบาลชั้นนำในเครือธนชาตประกันภัยกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ (รับประกันโดยธนชาตประกันภัย) เพียงแสดงบัตร all free E-Care Card จากแอป ttb touch ต้องบอกเลยว่าใครที่อยากให้ชีวิตทางการเงินของคุณดียิ่งขึ้น แนะนำให้เลือกเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารที่น่าเชื่อถือเพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวเอง
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชี ttb all free สามารถดูรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ttb contact center 1428
แหล่งอ้างอิง :
ธนาคารแห่งประเทศไทย. (ม.ป.ป.). การออมเงิน. https://www.bot.or.th/th/satang-story/money-plan/saving.html