external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

ต่อเติมบ้านให้สวยและคุ้มค่า วางแผนอย่างไรไม่ให้บานปลาย

23 ก.ย. 2568

การมีบ้านที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตคือความฝันของหลายคน เมื่อไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการมีสมาชิกใหม่ในครอบครัว การปรับพื้นที่สำหรับ Work from Home หรือต้องการมุมพักผ่อนส่วนตัวเพิ่มขึ้น การต่อเติมบ้าน จึงเป็นทางเลือกที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการเหล่านี้ แต่สิ่งที่มาพร้อมกันคือความกังวลเรื่องงบประมาณบานปลายและปัญหาจุกจิกตามมา อย่างไรก็ตาม หากมีการวางแผนที่ดีตั้งแต่ต้น การสร้างพื้นที่ในฝันก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ทีทีบีจะมาแนะนำคู่มือวางแผน ต่อเติมบ้าน อย่างมืออาชีพ


ทำไมการวางแผนก่อนลงต่อเติมบ้านจึงสำคัญ?

การวางแผนอย่างรอบคอบคือหัวใจสำคัญของการ ต่อเติมบ้าน ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี เพราะไม่ใช่แค่การออกแบบ แต่คือการวางรากฐานเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ป้องกันปัญหา งบบานปลาย ควบคุมค่าใช้จ่ายได้จริง

การวางแผนทำให้เราเห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตั้งแต่ค่าออกแบบ ค่าวัสดุ ค่าแรง ไปจนถึงค่าดำเนินการอื่นๆ ช่วยให้สามารถจัดสรรงบประมาณได้อย่างแม่นยำ การมีใบเสนอราคา (BOQ) ที่ชัดเจนจะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละขั้นตอน ป้องกันปัญหาการเรียกเก็บเงินเพิ่มที่ไม่มีที่มาที่ไป และทำให้มั่นใจได้ว่าเงินทุกบาทที่จ่ายไปนั้นสมเหตุสมผล

ได้แบบต่อเติมบ้านที่สวยตรงใจและฟังก์ชันครบ

ช่วงเวลาของการวางแผนคือโอกาสที่ดีที่สุดในการตกผลึกความคิดและสื่อสารความต้องการของเราให้ผู้ออกแบบเข้าใจอย่างถ่องแท้ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ที่ชอบ ฟังก์ชันที่จำเป็น หรือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่อยากให้มี การมีแบบต่อเติมบ้านที่สมบูรณ์ก่อนเริ่มงาน จะช่วยลดโอกาสในการแก้ไขหรือทุบทิ้งระหว่างทาง ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เสียเวลา แต่ยังทำให้งบประมาณเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นอีกด้วย

ลดความขัดแย้งระหว่างคุณ ผู้รับเหมา และเพื่อนบ้าน

แผนการทำงานที่ชัดเจนเปรียบเสมือนเอกสารอ้างอิงกลางที่ทุกฝ่ายใช้ร่วมกัน ทั้งเจ้าของบ้าน ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมา ช่วยให้ทุกคนเข้าใจขอบเขตงานและเป้าหมายตรงกัน นอกจากนี้ การวางแผนยังรวมถึงการตรวจสอบข้อกฎหมายเรื่องระยะร่นและแจ้งเพื่อนบ้านให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์อันดีและหลีกเลี่ยงข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อสร้าง

ขั้นตอนวางแผนการต่อเติมบ้าน


5 ขั้นตอนวางแผนการต่อเติมบ้าน

เพื่อให้การต่อเติมบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง การดำเนินงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอนคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม นี่คือ 5 ขั้นตอนสำคัญที่ควรทำตาม

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดเป้าหมายและสไตล์ที่ชอบ

จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดของการต่อเติมบ้าน คือการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนและตกผลึกความคิดให้ได้ว่าพื้นที่ใหม่นั้นจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ใด ซึ่งจะกลายเป็นแกนหลักในการตัดสินใจขั้นตอนต่อไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการต่อเติมข้างบ้านเพื่อสร้างเป็นห้องทำงานที่ต้องการความเงียบสงบ, การขยายพื้นที่ครัวไทยสำหรับรองรับการทำอาหารอย่างเต็มรูปแบบ, หรือการสร้างห้องนอนชั้นล่างที่เข้าถึงง่ายและปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ

เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ขั้นตอนถัดมาคือหาแบบต่อเติมบ้านในสไตล์ที่ชื่นชอบ โดยอาจสร้างเป็น Mood Board จากภาพในอินเทอร์เน็ตหรือนิตยสาร เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับผู้ออกแบบ ช่วยให้ทุกฝ่ายเห็นภาพตรงกันและลดความเข้าใจผิดในอนาคต

ขั้นตอนที่ 2: สำรวจพื้นที่และตรวจสอบข้อกฎหมาย

ก่อนจะลงมือออกแบบ ควรสำรวจพื้นที่จริงและตรวจสอบข้อจำกัดต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าแบบต่อเติมบ้านของเราสามารถสร้างได้จริงและไม่ผิดกฎหมาย ควรตรวจสอบพื้นที่และโครงสร้างของบริเวณที่จะต่อเติม ดูทิศทางแดดและลม ตรวจสอบสภาพโครงสร้างเดิมว่าสามารถรับน้ำหนักส่วนต่อเติมได้หรือไม่ และที่สำคัญคือการวัดระยะร่นจากแนวเขตที่ดินของเพื่อนบ้านและถนนสาธารณะ

จากนั้นให้เช็กข้อกฎหมายเบื้องต้น ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ว่าด้วยการควบคุมอาคาร มีข้อจำกัดอะไรที่ต้องทำตามบ้าง ซึ่งการต่อเติมบางประเภทต้องขออนุญาต แต่บางประเภทก็ได้รับการยกเว้น หลักๆ มีข้อกฎหมายที่ต้องทำความเข้าใจ ดังนี้

  • การต่อเติมบ้าน ที่ไม่ต้องขออนุญาต การขยายพื้นที่รวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร, ไม่มีการเพิ่มหรือลดจำนวนเสาหรือคาน, ไม่เพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้างเดิมเกิน 10% และต้องไม่กระทบโครงสร้างหลัก
  • การต่อเติมบ้าน ที่ต้องขออนุญาต การขยายพื้นที่เกิน 5 ตารางเมตร, มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเสาหรือคาน, การทำระเบียง หรือการต่อเติมที่ส่งผลต่อความปลอดภัยและทรัพย์สินของผู้อื่น เช่น การต่อเติมข้างบ้านจนชิดเขตที่ดิน

ขั้นตอนที่ 3: ออกแบบและประเมินงบประมาณ (BOQ)

เมื่อมีเป้าหมายและสไตล์ที่ชัดเจนแล้ว ก็ถึงเวลาเปลี่ยนความคิดในจินตนาการให้กลายเป็นแบบแปลนที่จับต้องได้ พร้อมประเมินค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด ซึ่งเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญที่สุดในขั้นตอนนี้คือ BOQ (Bill of Quantities) หรือเอกสารแสดงรายการวัสดุและค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างละเอียด ตั้งแต่ค่าวัสดุก่อสร้าง, ค่าอุปกรณ์ไฟฟ้า-ประปา, ค่าสุขภัณฑ์, ไปจนถึงค่าแรงในแต่ละส่วน

การมี BOQ ที่สมบูรณ์ไม่เพียงแต่ช่วยให้เห็นภาพรวมงบประมาณทั้งหมด แต่ยังใช้เป็นมาตรฐานในการเปรียบเทียบราคาจากผู้รับเหมาแต่ละราย อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ในงานก่อสร้าง สิ่งที่เจ้าของบ้านต้องตระหนักเสมอคือโอกาสที่จะเกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝัน ดังนั้น การเตรียมงบประมาณสำรองฉุกเฉินไว้อีกประมาณ 10-15% ของงบประมาณทั้งหมด จึงเป็นกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงที่ชาญฉลาด เพื่อให้โครงการต่อเติมบ้าน สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างไม่สะดุด

ขั้นตอนที่ 4: การขออนุญาตต่อเติมบ้าน

หากการต่อเติมบ้านของคุณเข้าข่ายตามที่กฎหมายควบคุมอาคารกำหนดไว้ ขั้นตอนนี้ถือเป็นกระบวนการทางราชการที่สำคัญอย่างยิ่งและไม่สามารถมองข้ามได้ เพื่อป้องกันปัญหาการถูกสั่งรื้อถอนในอนาคต โดยเจ้าของบ้านต้องเตรียมเอกสารสำคัญให้ครบถ้วน ซึ่งประกอบด้วย

  • แบบแปลนการก่อสร้างที่ผ่านการรับรองและลงนามโดยสถาปนิกและวิศวกรผู้ได้รับใบอนุญาต
  • สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน
  • สำเนาโฉนดที่ดิน

เพื่อยื่นคำร้องขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารต่อหน่วยงานราชการในพื้นที่รับผิดชอบ เช่น สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานเทศบาลในต่างจังหวัด โดยทั่วไปกระบวนการพิจารณาและอนุมัติจะใช้ระยะเวลาประมาณ 30-45 วัน ซึ่งควรนำกรอบเวลานี้ไปคำนวณในแผนงานโดยรวมของโครงการด้วย

ขั้นตอนที่ 5: วิธีเลือกผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้

ผู้รับเหมาคือบุคคลสำคัญที่จะแปรเปลี่ยนแบบต่อเติมบ้านบนกระดาษให้กลายเป็นความจริง ดังนั้น การคัดเลือกอย่างพิถีพิถันจึงเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จของโครงการ กระบวนการคัดกรองควรเริ่มต้นจากการตรวจสอบผลงานที่ผ่านมาเพื่อดูคุณภาพและสไตล์งานที่ใกล้เคียงกับความต้องการ ควบคู่ไปกับการสอบถามความคิดเห็นจากลูกค้ารายก่อนๆ และค้นหารีวิวเพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและความรับผิดชอบ รวมถึงการตรวจสอบสถานะการจดทะเบียนบริษัทเพื่อความมั่นใจ

เมื่อพบผู้รับเหมาที่เหมาะสมแล้ว สิ่งที่จะเป็นเกราะป้องกันและสร้างความชัดเจนให้ทั้งสองฝ่ายคือสัญญาว่าจ้างที่รัดกุม ซึ่งต้องระบุรายละเอียดสำคัญเป็นลายลักษณ์อักษรครบถ้วน ทั้งขอบเขตงานทั้งหมด, รายการวัสดุพร้อมยี่ห้อและรุ่น, กำหนดเวลาเริ่มต้น-สิ้นสุดโครงการ และงวดการชำระเงินที่สัมพันธ์กับความคืบหน้าของงานจริง

สรุปการต่อเติมบ้าน


สรุปบทความ

การต่อเติมบ้านถือเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ การวางแผนการเงินจึงมีความสำคัญและต้องวางแผนอย่างรอบคอบ สำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนก้อนใหญ่เพื่อทำให้การต่อเติมบ้านในฝันเป็นจริง ทีทีบีมีทางเลือกสินเชื่อที่ตอบโจทย์เพื่อให้เกิดความคล่องตัวทางการเงิน

  • สำหรับผู้ที่มีบ้านผ่อนอยู่ สามารถเลือกสมัคร สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ นอกจากจะช่วยลดดอกเบี้ยและค่างวดเดิมแล้ว ยังสามารถขอวงเงินกู้เพิ่มจากสินเชื่อบ้านแลกเงินท็อปอัป เพื่อนำมาใช้ในการต่อเติมบ้านได้
  • หรือหากคุณมีบ้านที่ปลอดภาระแล้ว ก็สามารถใช้บ้านเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อผ่าน สินเชื่อบ้านแลกเงิน รับเงินก้อนใหญ่ไปใช้จ่ายตามแผนการต่อเติมบ้านได้อย่างอิสระ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมและเงื่อนไขการสมัคร ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และกรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับเพื่อให้คำปรึกษา ได้ที่เว็บไซต์ทีทีบี หรือสมัครได้ที่ ทีทีบีทุกสาขา และ แอปทีทีบีทัช

สินเชื่อบ้านแลกเงิน

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว: สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 3% - 5% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-4.115% ถึง MRR-1.805% ต่อปี • สินเชื่อบ้านแลกเงิน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 5% - 11% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-1.855% ถึง MRR+3.020% ต่อปี • โดยอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 15 ส.ค. 68 = 7.305% ต่อปี • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • เงื่อนไขการสมัครและอนุมัติสินเชื่อ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกําหนด • รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ www.ttbbank.com