การกู้ซื้อคอนโดเป็นก้าวสำคัญในชีวิตของใครหลายคน และเป็นภาระที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ โดยเราจะต้องประเมินความสามารถในการผ่อนชำระเบื้องต้นของตัวเองก่อนว่า สอดคล้องกับรายได้มั้ย? เพื่อให้คนมีฝันอย่างคุณมองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ทีทีบี ขออาสาพาทุกคนไปสำรวจกันว่า การกู้ซื้อคอนโดต้องเตรียมตัวอย่างไร เงินเดือนแต่ละเรทควรผ่อนเท่าไหร่ให้พอเหมาะกับการใช้ชีวิต
5 สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนกู้ซื้อคอนโด
ก่อนจะตัดสินใจกู้ซื้อคอนโด มีหลายสิ่งที่คุณควรเตรียมพร้อม ทั้งด้านการเงิน เอกสาร และการวางแผนระยะยาว โดยสินเชื่อบ้านทีทีบีได้รวม 5 สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ดังนี้
1. วางแผนค่าใช้จ่ายให้รอบคอบ
เพราะการซื้อคอนโดไม่ได้มีเพียงค่างวดรายเดือนเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องเตรียม เช่น เงินดาวน์ ค่าเฟอร์นิเจอร์และตกแต่ง และค่าส่วนกลางล่วงหน้า หากเราเตรียมเงินส่วนไว้ให้พร้อม ก็จะช่วยลดความเสี่ยงผิดนัดชำระในอนาคตได้เป็นอย่างดี
2. เตรียมค่าธรรมเนียมยื่นกู้ซื้อคอนโดกับธนาคาร
นอกจากการผ่อนชำระรายเดือนแล้ว การ กู้ซื้อคอนโด ยังมีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องเตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งเงินดาวน์ถือเป็นก้อนแรกที่สำคัญ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 5-20% ของราคาคอนโด นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ ดังนี้
- ค่าจองและค่าทำสัญญา มักจะอยู่ที่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท
- ค่าประเมินราคา ประมาณ 2,000 - 3,000 บาท (ขึ้นอยู่กับธนาคาร)
- ค่าอากรแสตมป์ คิดเป็น 0.05% ของวงเงินกู้
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ คิด 0.1% ของราคาประเมิน*
- ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้
- ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย เป็นประกันภาคบังคับที่ต้องทำเมื่อขอสินเชื่อ
- ค่าส่วนกลางล่วงหน้า บางที่มักจะต้องจ่ายล่วงหน้า 1-2 ปี
*หมายเหตุ รัฐบาลได้มีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% สำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย และมีราคาซื้อขายและราคาประเมินรวมทั้งวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาท โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2568 ถึง 30 มิถุนายน 2569
3. รักษาประวัติเครดิตบูโรให้ดี
ประวัติเครดิตบูโรที่ดีมีผลอย่างมากต่อการอนุมัติสินเชื่อกู้ซื้อคอนโด เพราะทุกธนาคารใช้ข้อมูลดังกล่าวประกอบการพิจารณาความเสี่ยงและความสามารถในการชำระหนี้ของเรา การรักษาประวัติการชำระเงินให้ตรงเวลาและจัดการหนี้สินได้อย่างครบถ้วน ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ
4. เลือกทำเลคอนโดที่มีศักยภาพ
การเลือกทำเลคอนโดที่ดีไม่เพียงแต่ทำให้ชีวิตประจำวันของคุณสะดวกสบายขึ้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด คอนโดในทำเลที่มีศักยภาพมักจะมีราคาที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ทำเลที่ดีควรอยู่ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ สิ่งอำนวยความสะดวก และแหล่งงาน
5. เตรียมเอกสารยื่นกู้ให้พร้อม
การเตรียมเอกสารสำหรับยื่นกู้อย่างครบถ้วนและถูกต้องเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเอกสารที่พร้อมช่วยให้กระบวนการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารรวดเร็วขึ้น และแสดงถึงความรับผิดชอบของเรา ซึ่งอาจส่งผลดีต่อการอนุมัติสินเชื่อกู้ซื้อคอนโดของคุณ
เงินเดือนเท่านี้ ผ่อนคอนโดเดือนละเท่าไหร่
การยื่นกู้ซื้อคอนโดนั้นสามารถเริ่มยื่นได้ตั้งแต่เงินเดือน 15,000 บาท แต่ทั้งนี้เราก็ควรวางแผนการผ่อนให้สอดคล้องกับรายได้ในแต่ละเดือนด้วยเช่นกัน โดยทั่วไป ยอดผ่อนต่อเดือนไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ และการออม เบื้องต้นสามารถคิดความสามารถในการผ่อนด้วยสูตรง่ายๆ ดังนี้
เงินเดือน x 40% – หนี้สินที่มีอยู่ = ความสามารถผ่อนชำระต่อเดือน
ตัวอย่าง นาย A มีเงินเดือน 25,000 บาท และมีภาระผ่อนรถยนต์อยู่เดือนละ 3,000 บาท
สรุป นาย A จะมีความสามารถในการผ่อนคอนโดอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาทต่อเดือน ซึ่งโดยประมาณจะสามารถกู้วงเงินได้ราว 1,000,000 บาท (คิดจากยอดผ่อนล้านละ 7,000 บาท)
ทั้งนี้ก็คิดความสามารถในการผ่อนชำระคอนโด แบ่งเกณฑ์การคิดได้ 2 แบบ ดังนี้
กรณีมีภาระผ่อนแค่คอนโดอย่างเดียว
หากเรามีภาระผ่อนเฉพาะคอนโดโดยไม่มีหนี้สินอื่น แนะนำให้ผ่อนไม่เกิน 40% ของรายได้สุทธิ ตัวอย่างเช่น เงินเดือน 30,000 บาท ปัจจุบันไม่มีหนี้สิน ดังนั้น ควรผ่อนคอนโดได้ไม่เกินเดือนละ 12,000 บาท เพื่อให้ผู้ยื่นกู้มีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
รายได้ผู้ยื่นกู้ต่อเดือน | รายได้ผู้ยื่นกู้ต่อเดือน | ยอดผ่อนต่อเดือน** |
---|---|---|
15,000 - 20,000 | 900,000 - 1,200,000 บาท | 6,300 - 8,400 บาท |
20,001 - 30,000 | 1,200,000 - 1,800,000 บาท | 8,400 - 12,600 บาท |
30,001 - 50,000 | 1,800,000 - 3,000,000 บาท | 12,600 - 21,000 บาท |
50,001 บาทขึ้นไป | 3,000,000 บาทขึ้นไป | 21,000 บาทขึ้นไป |
*หมายเหตุ ตัวเลขในตารางเป็นเพียงการประมาณการเบื้องต้น วงเงินอนุมัติจริงและยอดผ่อนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามเงื่อนไขและนโยบายของแต่ละธนาคาร
กรณีมีภาระหนี้สินอื่นร่วมด้วย
แต่กรณีที่มีภาระหนี้สินควรนำภาระหนี้สินมาหักออกจากเงินเดือน เพื่อคิดรายได้สุทธิ และนำมาคำนวณยอดผ่อนต่อเดือนที่ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้สุทธิ เช่น เงินเดือน 30,000 บาท มีหนี้สิน 5,000 บาท ดังนั้นยอดผ่อนชำระต่อเดือนไม่ควรเกิน 10,000 บาท เพื่อรักษาสมดุลทางการเงินของเราไว้
หมายเหตุ:
- อัตราภาระหนี้ 40% ของรายได้ เป็นค่ากลางที่ใช้เพื่อการคำนวณได้สะดวก ในทางปฏิบัติอาจยืดหยุ่นได้ระหว่าง 35-45% ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละบุคคล
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการกู้ซื้อคอนโด
กู้ซื้อคอนโดหาคนกู้ร่วมดีไหม
การหาผู้กู้ร่วมซื้อคอนโดเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความสามารถในการกู้ให้สูงขึ้น เพราะธนาคารจะนำรายได้ของผู้กู้ร่วมมาคำนวณรวมด้วย ทำให้สามารถขอวงเงินสินเชื่อได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้กู้ร่วมจะต้องมีความสัมพันธ์ทางครอบครัวหรือเป็นคู่สมรส และต้องรับผิดชอบในภาระหนี้ร่วมกันทั้งหมด หากคนใดคนหนึ่งผิดนัดชำระ ก็จะส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตของทั้งสองคน
กู้ซื้อคอนโด ต้องดาวน์ไหม
โดยทั่วไปแล้ว การกู้ซื้อคอนโดจำเป็นต้องมีเงินดาวน์อย่างน้อย 5-20% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน การวางเงินดาวน์สูงจะช่วยลดภาระยอดผ่อนต่อเดือนและลดดอกเบี้ยโดยรวมที่ต้องจ่ายได้ ทั้งยังแสดงให้ธนาคารเห็นถึงความพร้อมและวินัยทางการเงินของผู้กู้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้อีกทางหนึ่ง
กู้ซื้อคอนโดได้อย่างไรให้ผ่าน
การเตรียมตัวที่ดีคือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้การยื่น กู้ซื้อคอนโด ของคุณผ่านไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งมีเคล็ดลับที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ดังนี้
- สร้างประวัติเครดิตที่ดี ชำระหนี้ต่างๆ ให้ตรงเวลาเสมอ อย่างน้อย 12-24 เดือนก่อนยื่นกู้
- เคลียร์หนี้สินที่ไม่จำเป็น ปิดบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้ หรือชำระหนี้ก้อนเล็กๆ ให้หมดไปเพื่อลดค่า DSR(ภาระหนี้สินต่อรายได้” ที่ธนาคารใช้ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ยื่นกู้)
- เตรียมเงินดาวน์ให้พร้อม การมีเงินออมสำหรับดาวน์อย่างน้อย 10-20% จะสร้างความเชื่อมั่นให้ธนาคาร
- รักษาความมั่นคงของอาชีพ พยายามอย่าเปลี่ยนงานบ่อยในช่วง 1-2 ปีก่อนยื่นกู้
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน จัดเตรียมเอกสารส่วนตัว เอกสารทางการเงิน และเอกสารเกี่ยวกับหลักประกันให้พร้อมและถูกต้อง
- เลือกคอนโดที่เหมาะสมกับรายได้ ไม่เลือกคอนโดที่ราคาสูงเกินความสามารถในการผ่อนชำระของตนเอง
กู้ซื้อคอนโดกับธนาคารไม่ผ่านเพราะอะไร
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้การขอสินเชื่อถูกปฏิเสธ มักมาจากปัจจัยดังนี้: ภาระหนี้สินต่อรายได้ (DSR) สูงเกินไป, มีประวัติผิดนัดชำระหนี้ในเครดิตบูโร, คุณสมบัติด้านรายได้หรืออายุงานไม่เข้าเกณฑ์, เอกสารไม่ครบถ้วนหรือไม่น่าเชื่อถือ, หรือ การมีผู้กู้ร่วมที่มีประวัติการเงินไม่ดี หรือมีภาระหนี้สินมาก อาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณาสินเชื่อ
กู้ซื้อคอนโดไม่ผ่านเพราะบูโรสูง หมายความว่าอย่างไร
คำว่า "บูโรสูง" เป็นภาษาพูดที่มักหมายถึง การมี "ภาระหนี้ในระบบสูง" หรือ "มีประวัติไม่ดีในเครดิตบูโร" ไม่ได้หมายถึงคะแนนสกอร์ที่สูง ในความเป็นจริงแล้ว คะแนนเครดิต (Credit Score) ที่สูงนั้นเป็นเรื่องดี แต่หากธนาคารแจ้งว่ากู้ไม่ผ่านเพราะบูโรสูง มักจะหมายความว่าคุณมีภาระหนี้สินเดิมที่เมื่อรวมกับหนี้บ้านใหม่แล้ว ทำให้ DSR เกินเกณฑ์ที่ธนาคารยอมรับได้ หรือมีประวัติการชำระหนี้ล่าช้าปรากฏอยู่ในข้อมูลเครดิตนั่นเอง
ยื่นกู้ซื้อคอนโดใช้เอกสารอะไรบ้าง
1. เอกสารส่วนบุคคล
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า (ถ้ามี)
2. เอกสารแสดงรายได้
- สำหรับพนักงานประจำ
- สลิปเงินเดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
- รายการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
- สำหรับเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ
- รายการเดินบัญชีของตนเองและของกิจการ ย้อนหลัง 12 เดือน
- สำเนาทะเบียนการค้า หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- หลักฐานการเสียภาษี เช่น ภ.พ.30 หรือ ภ.ง.ด.90/91
สรุปการกู้ซื้อคอนโดและความสามารถในการชำระ
การวางแผนอย่างรอบคอบคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การกู้ซื้อคอนโดง่ายขึ้น หากทำความเข้าใจในความสามารถทางการเงินของตนเอง รู้จักสร้างข้อมูลเครดิตบูโรให้ดี และการเตรียมเงินดาวน์ให้พร้อม จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและสามารถประเมินวงเงินในการกู้ซื้อคอนโดได้อย่างเหมาะสม การเตรียมตัวที่ดีไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ แต่ยังช่วยให้คุณผ่อนชำระได้อย่างสบายใจ ไม่สร้างภาระหนักในระยะยาว
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกในการกู้ซื้อคอนโด หรือกู้ซื้อบ้าน ทีทีบี มาพร้อมบริการสินเชื่อบ้านใหม่-บ้านมือสองที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่และเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น
- วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน
- วงเงินอนุมัติสูงสุด 50 ล้านบาท
- ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 35 ปี
- ฟรี! ค่าประเมินหลักทรัพย์ – ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย และทางเลือกฟรีค่าจดจำนอง*
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมหรือต้องการยื่นขอสินเชื่อกู้บ้านกับ ttb สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทางเว็บไซต์ทีทีบี หรือ คลิกที่นี่
*ธนาคารจะออกค่าธรรมเนียมจดจำนองให้ 1% ของวงเงินอนุมัติสินเชื่อรวมสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท โดยลูกค้าชำระค่าธรรมเนียมจดจำนองก่อนแล้วธนาคารจะโอนค่าธรรมเนียมจดจำนองดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝากของลูกค้าภายในระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่จำนองหลักประกัน
หมายเหตุ : กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว สินเชื่อบ้านใหม่-บ้านมือสอง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4% - 7% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-1.680% ถึง MRR-0.780% ต่อปี • โดยอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 15 ส.ค. 68 = 7.305% ต่อปี • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • เงื่อนไขการสมัครและอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกําหนด • รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ www.ttbbank.com