external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

โอกาสเข้าถึงสินทรัพย์นอกตลาด ที่นักลงทุนทั่วไปเข้าไม่ถึงกับ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไพรเวท อินฟราสตรัคเจอร์ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนแบบปกติ (UPINFRA-UI-N)

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โลกเรายังเผชิญความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าโควิดคลี่คลาย ประเทศหลักผ่านวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ สถานการณ์ความไม่สงบทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการดำเนินนโยบายการค้าที่เปลี่ยนไปของประเทศยักษ์ใหญ่ อย่างสหรัฐฯ ที่มุ่งเปลี่ยนกลยุทธ์จากพหุภาคี มาสู่การทวิภาคี จับคู่ประเทศเพื่อเจรจา และตั้งกำแพงภาษีเพื่อกดดันการดำเนินนโยบาย สร้างความผันผวนให้ภาคธุรกิจ และตลาดการเงินโลกไม่ใช่น้อย

ในยุคของการเอาตัวรอด ความคาดหวังมุ่งตรงไปยังนวัตกรรม เทคโนโลยีและธุรกิจที่มีความจำเป็นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความไม่แน่นอนเหล่านี้ เลี่ยงไม่ได้ที่ราคาสินทรัพย์ในตลาดจะผันผวนตามไปด้วย มันจะดีกว่าไหม หากเราสามารถผนวกจุดเด่นของธุรกิจที่มีรายได้มั่นคง ไปพร้อมกับราคาที่ไม่ผันผวนตามความอ่อนไหวของตลาดได้

หนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจ และเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนทางเลือก ที่สามารถตอบโจทย์ในการสร้างผลตอบแทนได้อย่างมั่นคง ขณะเดียวกัน มีความสัมพันธ์กับราคาสินทรัพย์ในตลาดค่อนข้างต่ำ มาช่วยลดความผันผวนให้พอร์ตการลงทุน นั่นคือ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานนอกตลาด หรือที่รู้จักกัน Private Infrastructure Fund นั่นเอง


รู้จักกับธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานนอกตลาด พร้อมโอกาสครั้งใหญ่ในการเป็นเจ้าของธุรกิจระดับโลกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เป็นโครงการที่มีความจำเป็นต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม มีความต้องการชัดเจนและเป็นเทรนด์ในระยะยาว สินทรัพย์เหล่านี้มักมีขนาดใหญ่ มีอายุการใช้งานยาวนานหลายสิบปี ซึ่งสะท้อนถึง กระแสเงินสดหรือโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว จากรายได้ที่คาดการณ์ได้ ด้วยการมีสัญญาและสินทรัพย์รองรับ นอกจากนี้ ยังสามารถปรับตัวตามอัตราเงินเฟ้อ ทำให้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ดี นอกจากนี้ โครงการโครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่ มักต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ประกอบกับสภาพคล่องที่จำกัดกว่าสินทรัพย์ทั่วไป ทำให้เป็นโอกาสเฉพาะสำหรับนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ในการเข้าถึงการลงทุนประเภทนี้

อย่างไรก็ตาม ในโลกปัจจุบัน ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โครงสร้างพื้นฐานไม่ใช่มี แค่ถนน สะพาน หรือโรงไฟฟ้าอีกต่อไป แต่รวมไปถึง หัวใจของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ ที่เป็น Megatrend ตั้งแต่พลังงานสะอาด ไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ที่รองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต

โครงสร้างพื้นฐานนอกตลาด (Private Infrastructure) คือ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Non-listed Company) ซึ่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในรูปแบบของการเป็นหุ้นส่วนหรือ ซื้อหุ้นโดยตรงกับบริษัทเอกชนประเภทนี้


มีจุดเด่นที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้เข้าถึงสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตสูง และมี Control หรืออำนาจในการดำเนินงานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในสินทรัพย์โดยตรง ทั้งยังมีความสามารถในการกำหนดราคา เนื่องจากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานมีความต้องการสูง จึงสามารถต่อรองสัญญาหรือสัมปทาน ปรับราคาให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ และส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคได้ จึงมีรายได้ที่มั่นคง และทนทานในภาวะเงินเฟ้อสูง


นอกจากนี้ สินทรัพย์นอกตลาดมีความผันผวนต่อหุ้น หรือตลาดการเงินค่อนข้างต่ำแลกกับสภาพคล่องที่มีจำกัดกว่าสินทรัพย์ทั่วไป แต่ยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่ดี ดังนั้น จึงเหมาะกับการลงทุนในระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงสูงได้

จุดเด่นของการลงทุน Private Infrastructure


หากดูผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สินทรัพย์ Private Infrastructure ถือเป็นหนึ่งสินทรัพย์ที่สร้างมีผลการดำเนินงานได้ดี สูงกว่าหุ้นโครงสร้างพื้นฐานที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Listed Infrastructure) และยังมีผลการดำเนินงานที่ดีเมื่อเทียบกับหุ้น (Public Equity) แม้ว่าในช่วงวัฏจักรเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน

Source: EQT, June 2025
Source: EQT, June 2025

คว้าโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำพร้อมกัน ผ่าน กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไพรเวท อินฟราสตรัคเจอร์ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนแบบปกติ (UPINFRA-UI-N)

กองทุน UPINFRA-UI-N เป็นกองทุนรวมต่างประเทศที่ลงทุนในกองทุนหลัก EQT Nexus Infrastructure (ENIF) เน้นการลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก ที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งทางตรงและทางอ้อมในสินทรัพย์ ที่มีการเติบโตดี โดยมุ่งหมายในการสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนรวมที่ดี โดยเน้น 4 ธีมโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นเทรนด์ในอีก 10-20 ปี ข้างหน้า สอดรับโอกาสการเติบโต ระยะยาวและมีความต้องการที่แข็งแกร่ง


4 ธีมการลงทุนที่น่าสนใจ ได้แก่

จุดเด่นของการลงทุน Private Infrastructure
  1. ธุรกิจพลังงานและสิ่งแวดล้อม: พลังงานทางเลือก พลังงานไฟฟ้า (Electronic) ,Smart solution สนับสนุน Clean Economy
  2. ธุรกิจการเดินทางและขนส่ง: ระบบขนส่งอัตโนมัติ, E-commerce, การเดินทาง ที่การลงทุนเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  3. ธุรกิจดิจิตอล: ระบบ Cloud , Data center, Fiber and Internet of things ที่เติบโตรองรับความต้องการด้านเทคโนโลยี & AI
  4. ธุรกิจด้านสังคม: เช่น บริการรองรับสังคมสูงอายุที่มีประชากรเพิ่มขึ้น มีการใช้จ่ายสูงขึ้นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี (Health & Well-being)


ทีมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนอกตลาด

บริหารจัดการโดย EQT

“บริหารจัดการโดย EQT ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนอกตลาด กลุ่มสร้างมูลค่าเพิ่ม ลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดมาตั้งแต่ปี 1994 ลงทุนในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานมาตั้งแต่ปี 2008”

ปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้จัดการและบริหารสินทรัพย์นอกตลาดใหญ่ที่สุดในโลก สามารถระดมทุน (AUM) ในช่วงปี 2020 ถึง ปี 2024 มากถึง 1.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ (PEI Ranking, June 2025)

กลยุทธ์การลงทุนของกองทุนหลัก
ผู้จัดการกองทุนให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่กำลังเติบโต (Growth) โดยเข้าซื้อในระดับราคาต่อมูลค่าที่สมเหตุสมผล โดยการใช้กระบวนการบริหารแบบการเป็นเจ้าของ ที่มีอำนาจในการควบคุมและดำเนินกิจการเพื่อเพิ่มรายได้และกำไร ผ่านความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Industrial Advisor) และโฟกัสเฉพาะธุรกิจที่ชำนาญ ซึ่งสอดคล้องไปกับเทรนด์การเติบโต แลกกับการที่สภาพคล่องจำกัดและต้องถือลงทุนในระยะยาว เพื่อมุ่งสร้างอัตราผลตอบแทนเทียบกับความผันผวนที่ดี โดยที่ความเสี่ยงตามตลาด (Market Risk) จำกัดกว่า

กระบวนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของกองทุนหลัก EQT

Source: UOBAM, EQT as of Jun 2025

กระบวนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของกองทุนหลัก EQT ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนในตลาด แบ่งเป็น 5 ขั้นตอนสำคัญ

  1. วิเคราะห์สภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรม (Market Status) และ Baseline
  2. ประเมินความเป็นไปได้ทั้งหมดในแผนการลดความเสี่ยง และการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Creation)
  3. ดำเนินการตามแผน เริ่มจากการลงทุนที่มีโอกาสชนะสูง (Must-Win-Battles) วางโครงสร้างเริ่มต้นและแผนการปฏิบัติงานใน 3-5 ปีข้างหน้า
  4. วางแผนการใช้ทรัพยากรตลอดช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะจัดสรรทรัพยากรไปในโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจที่สุด
  5. ประเมินผลกระทบ (Quantified Impact) เพื่อไปสู่ศักยภาพสูงสุด


รายได้ของธุรกิจเหล่านี้มาจากไหน? มากกว่า 80-90% ของรายได้จากการลงทุนใน Infrastructure มีการกำหนดโดยสัญญา และมีรอบในการปรับเปลี่ยนมูลค่าหรือราคาค่าบริการขึ้น เพื่อให้สะท้อนถึงเงินเฟ้อในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน มีลักษณะที่ต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีตัวตน จับต้องได้ ดังนั้น จึงเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันหรือรองรับในกรณีที่บริษัทมีปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม รายได้รับจากโครงการไม่ใช่แหล่งรายได้เดียวของกองทุน แต่ผู้จัดการกองทุนสามารถ Exit หรือสร้างรายได้จากการขายทรัพย์สิน เช่น การขายต่อในตลาดรอง หรือเอาธุรกิจเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสร้างผลตอบแทนได้อีกด้วย

ตัวอย่างสัญญาและรายได้รับจากโครงการในแต่ละธีม

ตัวอย่างสัญญาและรายได้รับจากโครงการในแต่ละธีม
Source: EQT, April 2025


พอร์ตการลงทุนเบื้องต้นและประมาณการสัดส่วนการลงทุนของกองทุนหลัก

พอร์ตการลงทุนเบื้องต้นและประมาณการสัดส่วนการลงทุนของกองทุนหลัก

มากกว่า 80% ของพอร์ตการลงทุน กระจายการลงทุนใน อเมริกา และ ยุโรปในสัดส่วนใกล้เคียงกัน
มากกว่า 50% ของพอร์ตการลงทุน เน้นลงทุนในพลังงาน และ เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน
มีการจัดการเรื่องสภาพคล่องที่ดี ผ่านการ 1) กระจายการลงทุนทั้งในกองทุน(FoFs) ซึ่งเป็นกองที่บริหารเอง และลงทุนตรง 2) มีสัดส่วนเงินสดสำหรับ Liquidity และโอกาสลงทุนต่อ


สรุปจุดเด่นของ UPINFRA-UI-N

  • โอกาสการลงทุนบริษัทโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำ ที่มีรายได้สม่ำเสมอ พร้อมเป้าหมายการสร้างผลตอบแทนที่ชัดเจน - ผ่านลงทุนธุรกิจที่มีรายได้ชัดเจนจากสัญญา มีอำนาจต่อรองราคา และทนทานต่อวัฏจักรเศรษฐกิจ เงินเฟ้อได้
  • เน้น 4 อุตสาหกรรม ที่เป็นเทรนด์ในอีก 10-20 ปี ข้างหน้า หัวใจของการเติบโตในระยะยาว - ลงทุนเมกะโปรเจคกลุ่ม 1) Energy 2) Transportation 3) Digital 4) Social ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการเติบโตของภาคธุรกิจที่สำคัญ
  • คัดเลือกธุรกิจ โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน และยังเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการบริหาร Private Asset ระดับโลก EQT ผู้จัดการกองทุนหลัก เป็น Top 2 ของโลก ที่ระดมทุน Private Equity ได้เยอะที่สุด ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (PEI, June 2025)
  • ความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นและตราสารหนี้ต่ำ - ลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดจึงมีความผันผวน และผลกระทบจากตลาดการเงินต่ำ เหมาะกับการกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตการลงทุน (≤10% ของพอร์ต)
  • มีสภาพคล่องในการซื้อขาย เมื่อเทียบกับ Private Asset ดั้งเดิม - แม้เป็นสินทรัพย์นอกตลาด แต่สามารถซื้อได้ทุกเดือน และขายได้รายไตรมาส (ลงทุนอย่างน้อย 1.5 ปี แนะนำลงทุนระยะกลางถึงยาว ตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไป)

และนี่คือ อีกหนึ่งสินทรัพย์ทางเลือกที่เราคัดสรรมาให้ ผ่าน กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไพรเวท อินฟราสตรัคเจอร์ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนแบบปกติ (UPINFRA-UI-N) กองทุนโครงสร้างพื้นฐานนอกตลาด (Private Infrastructure) ที่ไม่เพียงแต่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีรายได้มั่นคงในระยะยาว แต่ยังเป็นธุรกิจที่มูลค่ามีแนวโน้มเติบโต แถมมีความสัมพันธ์กับตลาดค่อนข้างต่ำ เหมาะกับกระจายการลงทุนในภาวะที่ตลาดมีความไม่แน่นอนสูงอย่างปัจจุบัน

UPINFRA-UI-N เปิดเสนอขายสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและรายใหญ่พิเศษ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (UI Fund) เสนอขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 1-18 กรกฎาคมนี้ เสนอขายเฉพาะผู้ลงทุนสถาบัน และ ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ เท่านั้น(II & UHNW) ระดับความเสี่ยงกองทุน : ระดับ 8+ (ความเสี่ยงสูงมากอย่างมีนัยสำคัญ) มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อ : 500,000 บาท (เปิดให้ซื้ออีกครั้งเป็นรายเดือน ผู้ลงทุนสามารถขายคืนได้เป็นรายไตรมาส แนะนำเพื่อกระจายการลงทุนในระยะยาวตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป โดยมีระยะเวลาลงทุนขั้นต่ำประมาณ 1.5 ปี นับจากวันเข้าลงทุน)

ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกองทุน ได้

ขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทีที่ ที่ปรึกษาทางการเงินของท่าน หรือ โทร 1428 กด #4 (จันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.00-17.30 น. ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)

คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน/การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต/ กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ /กองทุนรวมนี้สำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย กองทุนนี้เป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน/กองทุนนี้ไม่ถูกจำกัดความเสี่ยงด้านการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนรวมทั่วไป จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับผลขาดทุนระดับสูงได้เท่านั้น/กองทุน UPINFRA-UI-N มีการกำหนดระยะเวลาการถือครองหน่วยลงทุน (Holding Period) สำหรับเงินลงทุนแต่ละรายการเป็นระยะเวลา 1.5 ปี โดยผู้ถือหน่วยลงทุนต้องถือครองหน่วยลงทุนขั้นต่ำ 1.5 ปี นับแต่วันที่ทำรายการซื้อหน่วยลงทุน กรณีมีการไถ่ถอนหรือขาย คืนหน่วยลงทุนที่มีระยะเวลาการถือครองไม่ครบหรือต่ำกว่า 1.5 ปี กองทุนจะมีการเรียกเก็บค่าปรับการขายคืนหรือสับเปลี่ยนออกก่อน ระยะเวลาถือครองที่กำหนดตามอัตราที่บริษัทจัดการกำหนด อนี่ง สำหรับการทำรายการขายคืนหน่วยลงทุน บริษัทการอาจพิจารณา ดำเนินการตามวิธีการ First In First Out (FIFO) เว้นแต่บริษัทจัดการจะอนุญาติเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ขึ้นกับดุลยพินิจของบริษัทจัดการ /กองทุนมีความเสี่ยงสูงและซับซ้อน และมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัว รวมทั้งความเสี่ยงสภาพคล่อง ในกรณีที่ Worst case scenario ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนเป็นจำนวนมาก อาจไม่ได้รับเงินต้นและผลตอบแทนตามที่คาดหมายไว้/ /กองทุนหลักมีการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดและมีการกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินจำนวนมาก ก่อนการตัดสินใจลงทุนควรศึกษาหนังสือชี้ชวนอย่างรอบคอบ /กองทุนมีนโยบายที่จะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงภายในประเทศที่กองทุนลงทุนอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนได้ รวมถึงได้รับเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน/เอกสารฉบับนี้ต้องใช้ประกอบกับ Fund FactSheet ขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารทีเอ็มบีธนชาตทุกสาขา/บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนยูโอบี (ประเทศไทย) และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนข้อมูลและการแสดงความเห็นต่างๆที่ปรากฎอยู่ในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำบนพื้นฐานจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และให้ความเห็นตามหลักวิชาการเท่านั้นโดยไม่ได้มุ่งหมายให้ถือเป็นการชักชวนหรือชี้ให้ซื้อ และ/หรือขายผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนประเภทต่างๆ ตามที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ทั้งนี้ทีมงานไม่อาจยืนยันและรับรองความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นได้ และไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ทีมงานไม่ขอรับความรับผิดชอบต่อความเสียหายในรายได้หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูล ข้อความ ความเห็น และ/หรือบทสรุปต่างๆ ที่ปรากฏในเอกสารฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดๆ กองทุนมีนโยบายที่จะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงภายในประเทศที่กองทุนลงทุนอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนได้ รวมถึงได้รับเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน/การแสดงความเห็นต่างๆที่ปรากฎอยู่ในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำบนพื้นฐานจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และให้ความเห็นตามหลักวิชาการเท่านั้น โดยไม่ได้มุ่งหมายให้ถือเป็นการชักชวนหรือชี้ให้ซื้อ และ/หรือขายผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนประเภทต่างๆ ตามที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ทั้งนี้ทีมงานไม่อาจยืนยันและรับรองความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นได้ และไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ทีมงานไม่ขอรับความรับผิดชอบต่อความเสียหายในรายได้หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูล ข้อความ ความเห็น และ/หรือบทสรุปต่างๆ ที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดๆ